วันพุธที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทดสอบการส่งงาน

ทดสอบการส่งงานครั้งที่1 ที่นี่

วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552

หลักการทำงานของคอมพิวเตอร์

การทำงานของคอมพิวเตอร์เป็น 4 ส่วนหลักได้แก่
1. หน่วยประมวลผลในรูปแบบข้อมูล Binary หรือที่เรียกว่า Arithmetic-Logical Unit (ALU) เปรียบเสมือนหัวใจของคอมพิวเตอร์ หน้าที่หลักของมันคือทำการประมวลผลทางคณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐานอันได้แก่การบวกและลบ และการทำการเปรียบเทียบข้อมูลสองข้อมูลว่ามีค่าเท่ากันหรือไม่ถ้าไม่จะมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า
2. หน่วยความจำ หรือ Memory ใช้สำหรับเก็บข้อมูล (Data) และ คำสั่ง (Instructions) โดยข้อมูลภายในหน่วยความจำจะถูกแบ่งเป็นส่วนๆเล็กๆเท่าๆกัน แต่ละส่วนมีที่อยู่(address) เพื่อใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจัดเก็บเอาไว้
3. อุปกรณ์อินพุตและเอาต์พุต หรือ I/O Device เป็นส่วนที่ใช้นำข้อมูลจากโลกภายนอกเข้ามาภายในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาประมวลผล และเมื่อได้ผลลัพธ์ก็จะนำข้อมูลที่ได้มาแสดงผลให้โลกภายนอกคอมพิวเตอร์ได้รับทราบ
4. หน่วยควบคุมการทำงาน หรือ Control Unit เป็นส่วนที่ใช้เชื่อมต่อแต่ละส่วนเข้าด้วยกัน หน้าที่หลักๆคือทำการอ่านข้อมูลคำสั่งที่อยู่ภายในหน่วยความจำหรือที่ได้จากอุปกรณ์อินพุต ทำการแปลความหมายและส่งไปประมวลผลใน ALU จากนั้นนำผลที่ได้ไปจัดเก็บในหน่วยความจำหรืออุปกรณ์เอาต์พุต หน้าที่หลักอีกประการ คือควบคุมลำดับการทำงานของแต่ละขั้นตอนให้อยู่ในเวลาที่เหมาะสม

ที่มา: http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=370e33bdd6f4d16a&clk=wttpcts


ระบบการทํางานของคอมพิวเตอร์
การทํางานของคอมพิวเตอร์ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) ทําหน้าที่ในการรับข้อมูลหรือคําสั่งจากภายนอกเข้าไปเก็บไว้ในหน่วยความจํา เพื่อเตรียมประมวลผลข้อมูลที่ต้องการ ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้ในการนําข้อมูลที่ใช้กันอยู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนั้น มีอยู่หลายประเภทด้วยกันสําหรับอุปกรณ์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี ดังต่อไปนี้
- Keyboard
- Mouse
- Disk Drive
- Hard Drive
- CD-Rom
- Magnetic Tape
- Card Reader
- Scanner

2. หน่วยประมวลผลกลาง (Central Processing Unit) ทํ าหน้าที่ในการคํานวณและประมวลผล แบ่งออกเป็น 2 หน่วยย่อย คือ
- หน่วยควบคุม ทําหน้าที่ในการดูแล ควบคุมลําดับขั้นตอนของการประมวลผล และการทํางานของอุปกรณ์ต่างๆ ภายในหน่วยประมวลผลกลาง และช่วยประสานงานระหว่างหน่วยประมวลผลกลาง กับอุปกรณ์นําเข้าข้อมูล อุปกรณ์ในการแสดงผล และหน่วยความจําสํารอง
- หน่วยคํานวณและตรรก ทําหน้าที่ในการคํานวณและเปรียบเทียบข้อมูลต่างๆ ที่ส่งมาจากหน่วยควบคุม และหน่วยความจํา

3. หน่วยความจํ า (Memory) ทําหน้าที่ในการเก็บข้อมูลหรือคําสั่งต่างๆ ที่รับจากภายนอกเข้ามาเก็บไว้ เพื่อประมวลผลและยังเก็บผลที่ได้จากการประมวลผลไว้เพื่อแสดงผลอีกด้วย ซึ่งแบ่งออกเป็น หน่วยความจํา เป็นหน่วยความจําที่มีอยู่ ในตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ในการเก็บคําสั่งหรือข้อมูล แบ่งออกเป็น
- ROM หน่วยความจําแบบถาวร
- RAM หน่วยความจําแบบชั่วคราว
- หน่วยความจําสํารอง เป็นหน่วยความจําที่อยู่นอกเครื่อง มีหน้าที่ช่วยให้หน่วยความจําหลักสามารถเก็บ ข้อมูลได้มากขึ้น

4. หน่วยแสดงผล (Output Unit) ทําหน้าที่ในการแสดงผลลัทธ์ที่ได้หลังจากการคํานวณและประมวลผล สําหรับอุปกรณ์ที่ ทําหน้าที่ในการแสดงผลข้อมูลที่ได้นั้นมีต่อไปนี้
- Monitor จอภาพ
- Printer เครื่องพิมพ.
- Plotter เครื่องพิมพ์ที่ใช้ปากกาในการเขียนข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการลงกระดาษ

ที่มา: http://blogger.sanook.com/xuou/2009/02/06/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%A3/

วันอังคารที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2552

สำหรับแม่.....น้อยกว่านี้ได้ยังไง

สำหรับแม่ฉันนะ แม่เป็นทุกสิ่งเป็นทุกอย่างสำหรับฉัน เพื่อนเป็น เป็นพี่
แม่คือ คนที่คอยให้กำลังใจ บอกสอน เลี้ยงดู เป็นที่ปรึกษา ทุกๆๆเรื่อง
ทุกๆเวลา แม่คือคนที่คอยให้เสมอ ให้ทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิตของตนเอง
โดยไม่หวังสิ่งใดๆตอบแทนจาก...ลูกคนนี้เลย
..............................รักแม่มากมายคะ..........................................

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

ช๊อกโกแลต

ใครๆที่ชอบทานช๊อกโลตเหมือนฉันก็ควรอ่านนะคะว่า...ช๊อกโกแลตที่เรากินอยู่นั้น..มันเป็นอย่างไร..


ช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกเลต (Chocolate) คือผลิตผลที่ได้มาจากเมล็ดของต้นโกโก้เขตร้อน ช็อกโกแลตเป็นส่วนผสมของของหวานหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นไอศกรีม ลูกอม คุกกี้ เค้ก หรือว่าพาย ช็อกโกแลตถือได้ว่าเป็นของหวานอย่างหนึ่งที่ถูกใจคนทั่วโลก
ช็อกโกแลตทำจากการหมัก คั่ว และบดอย่างละเอียดของเมล็ดโกโก้ซึ่งได้มาจากต้นโกโก้เขตร้อน (tropical cacao tree) ซึ่งมีต้นกำเนิดจากอเมริกากลางและเม็กซิโก ต้นโกโก้นั้นถูกค้นพบโดยชาวอินเดียนแดงและชาวอัซเตก (Aztecs) แต่ในปัจจุบันได้แพร่กระจายและปลูกไปทั่วเขตร้อน เมล็ดของต้นโกโก้นั้นมีรสฝาดที่เข้มข้นมาก ผลผลิตของเมล็ดโกโก้รู้จักกันในนาม "ช็อกโกแลต" หรือบางส่วนของโลกในนาม "โกโก้"
ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดโกโก้รู้จักภายใต้หลายชื่อแตกต่างกันไปในส่วนต่าง ๆ ของโลก ในอเมริกา อุตสาหกรรมช็อกโกแลตได้จำกัดความไว้ว่า
โกโก้ (cocoa) คือเมล็ดของต้นโกโก้
เนยโกโก้ (cocoa butter) คือไขมันของเมล็ดโกโก้
ช็อกโกแลต (chocolate) คือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของต้นโกโก้และเนยโกโก้
ช็อกโกแลตคือส่วนผสมระหว่างเมล็ดของฝักถั่วโกโก้และเนยโกโก้ ซึ่งได้ผสมน้ำตาลและส่วนผสมอื่น ๆ และถูกทำให้อยู่ในรูปของแท่งและรูปอื่น ๆ
เมล็ดของต้นโกโก้นอกจากทำเป็นช็อกโกแลตได้แล้วยังสามารถทำเป็นเครื่องดื่มได้ด้วย เช่น ช็อกโกแลตร้อน เครื่องดื่มช็อกโกแลตนั้นได้ถูกคิดค้นขึ้นโดยชาวอัซเตก (Aztecs) หลังจากนั้นโดยชนเผ่าอินเดียนแดงและชาวยุโรป
บ่อยครั้งที่ช็อกโกแลตมักจะถูกทำให้อยู่ในรูปของสัตว์ต่าง ๆ คน หรือวัตถุในจินตนาการ เพื่อร่วมในงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ ทั่วโลก เช่น รูปกระต่าย รูปทรงไข่ในเทศกาลอีสเตอร์ รูปของเหรียญหรือซานตาคลอสในเทศกาลคริสต์มาส และรูปทรงหัวใจในเทศกาลวาเลนไทน์

มลพิษทางอากาศ

โลกของเรามีชั้นของบรรยากาศห่อหุ้มอยู่โดยรอบหนาประมาณ 15 กิโลเมตร ชั้นของบรรยากาศดังกล่าวนี้ประกอบด้วย ก๊าซไนโตรเจน ออกซิเจน ฝุ่นละอองไอน้ำ และเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ในจำนวนก๊าซเหล่านี้ ก๊าซที่สำคัญที่สุดต่อการดำรงอยู่ของ สิ่งมีชีวิตในโลก คือ ก๊าซออกซิเจนและชั้นของบรรยากาศที่มีก๊าซออกซิเจนเพียงพอ ต่อการดำรงชีวิตมีความหนาเพียง 5 - 6 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งปกติจะมีส่วนประกอบ ของ
ในโลกเราปัจจุบันนี้มลพิษเยอะมากๆๆ.....แนจึงอยากให้ทุกๆๆท่านทำความเข้าใจบมัน
มารูจักไว้นคะเพื่อเป็นความรู้

ก๊าซต่าง ๆ ค่อนข้างคงที่ คือ ก๊าซไนโตรเจน 78.09% ก๊าซออกซิเจน 20.94% ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเฉื่อย 0.97%ในปริมาณคงที่ของก๊าซดังกล่าวนี้ เราถือ ว่าเป็นอากาศบริสุทธิ์แต่เมื่อใดก็ตามที่ส่วนประกอบของอากาศเปลี่ยนแปลงไปมีปริมาณ ของฝุ่นละออง ก๊าซ กลิ่น หมอกควัน ไอ ไอน้ำ เขม่าและกัมมันตภาพรังสีอยู่ในบรรยา กาศมากเกินไป เราเรียกสภาวะดังกล่าวว่า “อากาศเสีย” หรือ “มลพิษทางอากาศ”
ความหมาย ของ มลพิษทางอากาศ
มลพิษทางอากาศ หมายถึง ภาวะอากาศที่มีสารเจือปนอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าระดับปกติเป็นเวลา นานพอที่จะทำให้เกิดอันตรายแก่มนุษย์ สัตว์ พืช หรือทรัพย์สินต่าง ๆ อาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ฝุ่นละอองจากลมพายุ ภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว ไฟไหม้ป่า ก๊าซธรรมชาติอากาศเสียที่เกิดขึ้น โดยธรรมชาติเป็นอันตรายต่อมนุษย์น้อยมาก เพราะแหล่งกำเนิดอยู่ไกลและปริมาณที่เข้าสู่สภาพ แวดล้อมของมนุษย์และสัตว์มีน้อย กรณีที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ได้แก่ มลพิษจากท่อไอเสีย ของรถยนต์จากโรงงานอุตสาหกรรมจากขบวนการผลิตจากกิจกรรมด้านการเกษตรจากการระเหย ของก๊าซบางชนิด ซึ่งเกิดจากขยะมูลฝอยและของเสีย เป็นต้น

วิตามินซี

เพื่อนๆลองมารูจักกับวิตามินซีกัน แนมีมาให้ดู
วิตามินซีหรือ กรดแอสคอร์บิค (Ascorbic acid) เป็นสารอาหารที่ละลายได้ในน้ำ ร่างกายไม่สามารถที่จะสร้างขึ้นเองได้ จึงจำเป็นต้องได้รับจากการรับประทานเข้าไป วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกาย ช่วยเพิ่มภูมิชีวิตได้เป็นอย่างดี เพราะสามารถป้องกันและรักษาการอักเสบอันเนื่องมาจากแบคทีเรียและไวรัสได้
[แก้] ประโยชน์
เป็นตัวสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื่อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งยังเป็นตัวสร้างกระดูก ฟัน เหงือก และเส้นเลือด
ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
ช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างเม็ดเลือดทางอ้อม
ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ (Mutation)
ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตายในกรณีเด็กอ่อน (SIDS: Sudden Infant Death Syndrome)
ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
ช่วยคลายเครียด
การฉีดด้วยวิตามินซีปริมาณสูง อาจช่วยหยุดยั้งโรคมะเร็งได้ โดยวิตามินอาจเข้าทำปฏิกิริยาทางเคมีในเซลล์ มะเร็ง ให้กลายเป็นกรดขึ้น ทำให้เนื้อร้ายชะงักและน้ำหนักลดไปได้
แหล่งวิตามินซี
แหล่งวิตามินซีมีมากในผักตระกูลกะหล่ำ การเก็บเกี่ยวผักผลไม้ตั้งแต่ยังไม่แก่จัด ไม่สุกดี หรือนำไปผ่านการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็นการตากแห้ง หมักดอง จะทำลายวิตามินซีที่อยู่ในอาหารไปในปริมาณมาก
ความร้อนทำลายวิตามินซีได้ง่ายจึงไม่ควรต้มหรือผัดนานเกินไป แต่การแช่เย็นไม่ได้ทำให้ผักผลไม้สูญเสียวิตามินซีเพียงข้อเสียอยู่ตรงที่เมื่อนำออกมาวางในอุณหภูมิปกติแล้ว ออกซิเจนในอากาศจะทำให้วิตามินซีสลายตัวเร็ว
บางข้อมูลแนะนำว่าขนาดที่เหมาะสมมากที่สุดต่อวัน สำหรับผู้ใหญ่ คือ 250-500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง
แหล่งวิตามินในธรรมชาติจำนวน
ปริมาณสารอาหารที่ได้รับ
ฝรั่งน้ำหนัก 100 กรัม230 มิลลิกรัม
สับปะรด1 ชิ้นใหญ่(โดยเฉลี่ย)20-30 มิลลิกรัม
กะหล่ำดอกน้ำหนัก 100 กรัม49 มิลลิกรัม
บรอกโคลีน้ำหนัก 100 กรัม84 มิลลิกรัม
น้ำมะนาว1 แก้ว(100 กรัม)34 มิลลิกรัม
มันฝรั่งน้ำหนัก 100 กรัม1.3 มิลลิกรัม
กะหล่ำปลีน้ำหนัก 100 กรัม49 มิลลิกรัม
กล้วยชนิดต่างๆ1 ลูก(โดยเฉลี่ย)8.5 มิลลิกรัม
พริกหวาน1 เม็ด(โดยเฉลี่ย)100-120 มิลลิกรัม
ผักโขมน้ำหนัก 100 กรัม76.5 มิลลิกรัม
สตรอว์เบอร์รี่น้ำหนัก 100 กรัม77 มิลลิกรัม
มะเขือเทศน้ำหนัก 100 กรัม21.3 มิลลิกรัม
มะละกอน้ำหนัก 100 กรัม60 มิลลิกรัม

สารเสพติด

ตอนนี้ประทศไทยอยู่ในช่วงที่สารเสพติดระบาดมากๆฉันจึงอยากให้เพื่อนๆมาทำความรูจักกับสารพวกนี้กันนะคะ

ยาเสพติด หมายถึง สารหรือยาที่อาจเป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ หรือจากการสังเคราะห์ ซึ่งเมื่อเสพเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าจะโดย การกิน ดม สูบ ฉีด หรือ ด้วยประการใด ๆ แล้วจะทำให้เกิดผล ต่อร่างกายและจิตใจในลักษณะสำคัญ เช่น - ต้องเพิ่มขนาดการเสพขึ้นเรื่อยๆ - มีอาการอยากยาเมื่อขาดยา - มีความต้องการเสพทั้งร่างกายและจิตใจอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง - สุขภาพโดยทั่วไปจะทรุดโทรมลง
๒. ประเภทของยาเสพติด ยาเสพติด แบ่งได้หลายรูปแบบ ตามลักษณะต่าง ๆ ดังนี้ ๑. แบ่งตามแหล่งที่เกิด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ ๑.๑ ยาเสพติดธรรมชาติ (Natural Drugs) คือยาเสพติดที่ผลิตมาจากพืช เช่น ฝิ่น กระท่อม กัญชา เป็นต้น
๒. แบ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น ๕ ประเภท คือ ๒.๑ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๑ ได้แก่ เฮโรอีน แอลเอสดี แอมเฟตามีน หรือยาบ้า ยาอีหรือยาเลิฟ ๒.๒ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๒ ยาเสพติดประเภทนี้สามารถนำมาใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ แต่ต้องใช้ภายใต้การควบคุมของแพทย์ และใช้เฉพาะกรณีที่จำเป็นเท่านั้น ได้แก่ ฝิ่น มอร์ฟีน โคเคน หรือโคคาอีน โคเคอีน และเมทาโดน ๒.๓ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๓ ยาเสพติดประเภทนี้เป็นยาเสพติดให้โทษที่มียาเสพติดประเภทที่ ๒ ผสมอยู่ด้วย มีประโยชน์ทางการแพทย์ การนำไปใช้เพื่อจุดประสงค์อื่น หรือเพื่อเสพติด จะมีบทลงโทษกำกับไว้ ยาเสพติดประเภทนี้ ได้แก่ ยาแก้ไอ ที่มีตัวยาโคเคอีน ยาแก้ท้องเสีย ที่มีฝิ่นผสมอยู่ด้วย ยาฉีดระงับปวดต่าง ๆ เช่น มอร์ฟีน เพทิดีน ซึ่งสกัดมาจากฝิ่น ๒.๔ ยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๔ คือสารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษ ประเภทที่ ๑ หรือประเภทที่ ๒ ยาเสพติดประเภทนี้ไม่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในการบำบัดโรคแต่อย่างใด และมีบทลงโทษกำกับไว้ด้วย ได้แก่น้ำยาอะเซติคแอนไฮไดรย์ และ อะเซติลคลอไรด์ ซึ่งใช้ในการเปลี่ยนมอร์ฟีนเป็นเฮโรอีน สารคลอซูไดอีเฟครีน สามารถใช้ในการผลิตยาบ้าได้ และวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทอีก ๑๒ ชนิด ที่สามารถนำมาผลิตยาอีและยาบ้าได้ ๒.๕ ยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๕ เป็นยาเสพติดให้โทษที่มิได้เข้าข่ายอยู่ในยาเสพติดประเภทที่ ๑ ถึง ๔ ได้แก่ ทุกส่วนของพืชกัญชา ทุกส่วนของพืชกระท่อม เห็ดขี้ควาย เป็นต้น

สามเหลี่ยมเมอร์มิวดา

เป็นสิ่งที่ ที่ฉันอยากไปทดสอบอยู่เหมือนกัน ฉันมีเรื่องราวสามเหลี่ยมนี้มาให้ดู ... มาดูกันว่าเป็นอย่างไร

สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา (อังกฤษ: Bermuda Triangle) เป็นบริเวณสมมติในมหาสมุทรแอตแลนติก มีเนื้อที่ประมาณ 1.2 ล้าน ตร.กม. อยู่ระหว่างจุด 3 จุดที่ไม่เป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ได้แก่ เปอร์โตริโก ปลายสุดของมลรัฐฟลอริดาในสหรัฐอเมริกา และเกาะเบอร์มิวดาซึ่งเป็นดินแดนในปกครองของสหราชอาณาจักร สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาเป็นที่รู้จักทางสื่อมวลชนอย่างแพร่หลาย หลังจากที่ค้นพบว่าคุณสมบัติทางฟิสิกส์ต่างๆ ไม่เป็นไปตามกฎพื้นฐาน
สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา เริ่มเป็นที่รู้จักในปี พ.ศ. 2494 (ค.ศ. 1951) หลังจากที่มีเรือขนาดใหญ่หายสาบสูญภายในบริเวณสามเหลี่ยม รวมถึงเครื่องบินและเรือขนาดเล็กอื่นๆ จนได้รับขนานนามว่า "สามเหลี่ยมปีศาจ" (The Devil's Triangle)

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

โรคมะเร็ง

ใครที่ชอบกิน ของไหม้ๆๆ ทีนี้แหละนะต้องปรับนิสัยใหม่ ฉันก็เป็นอีกคนที่ชอบเอามากๆๆๆเลยของไหม้ๆๆ
เราจะต้องเปลี่ยนแปลงนิสัยใหม่แล้ว ลองมาอ่านสารความรูนี้ดูนะ

มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์ รวดเร็ว และมากกว่าปกติ ดังนั้น จึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะ ทำให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการ เจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์พวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะ เรียกชื่อ มะเร็ง ตามอวัยวะนั้นเช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็ง เม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
เท่าที่มีรายงานไว้ใน ขณะนี้ มะเร็งที่พบในร่างกายมนุษย์มีมากกว่า 100 ชนิด มะเร็งแต่ละชนิดจะมีการ ดำเนินของโรคไม่เหมือนกัน เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง จะมีการดำเนินชนิดของ โรค ที่รุนแรง ผู้ป่วยจะมีชีวิตการอยู่รอดสั้นกว่าผู้ป่วยมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
ดังนั้น การรักษามะเร็งแต่ละชนิดจะไม่เหมือนกัน มีวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอวัยวะที่เป็นมะเร็ง ระยะของมะเร็ง สภาพร่างกาย และความเหมาะสม ของผู้ป่วยมะเร็ง การรักษาจะยากหรือง่ายนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์มะเร็งและ การดำเนินโรคของมะเร็งด้วย เช่น มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งผิวหนัง รักษาง่ายกว่า มะเร็งปอด มะเร็งสมอง เป็นต้น

เลิกบุหรี่

ฉันได้ยินมาว่ากินมะนาวแล้วเลิกบุหรี่ได้..ฉันก็เลยไปหาข้อมูลมาดูแล้วก็มีจริงๆด้วย...ไม่เชื่อกตองเชื่อแล้วหละนะ.....งั้นลองอ่านดูละกันนะ...

"การเลิกบุหรี่ด้วยการกินมะนาว ส่วนใหญ่จะสามารถเลิกบุหรี่ได้ภายใน 2 สัปดาห์ และไม่อยากบุหรี่อีก ถือว่าชนะนิโคตินได้ มีการนำไปทดลองกับนักเรียน หลายคนที่ได้ทดลองวิธีนี้จะรู้สึกว่าสูบบุหรี่แล้วไม่อร่อย รสชาติไม่เหมือนเดิม ทำให้ไม่อยากสูบบุหรี่อีก อย่างไรก็ตาม แม้อาการทางกาย คือความอยากจะหมดไป แต่อาการทางใจบางครั้งจะยังมีอยู่ เช่น เศร้า หงุดหงิดเหมือนคนอกหัก คนรอบข้างต้องให้กำลังใจ และตั้งใจเลิกอย่างเด็ดขาดจะสามารถเลิกได้อย่างแน่นอน" ผศ.กรองจิตกล่าว

ด้านนางอนงค์ พัวตระกูล อาจารย์โรงเรียนบางมดวิทยา "สีสุกหวาดจวนอุปถัมภ์" ซึ่งได้รับรางวัลควบคุมยาสูบแห่งชาติ ประเภทสถานศึกษาปลอดบุหรี่ กล่าวว่าจากการทำค่ายลดละเลิกบุหรี่ โดยนำนักเรียนที่สูบบุหรี่จำนวน 75 คนมาทำกิจกรรม โดยให้ความรู้ถึงพิษภัยของบุหรี่ และให้เด็กใช้เวลาในการเลิกบุหรี่อย่างจริงจังประมาณ 3-7 วัน รวมทั้งใช้วิธีการเคี้ยวมะนาวเพื่อช่วยลดความอยากสูบบุหรี่ พบว่าร้อยละ 75 จะสูบเป็นครั้งคราว เมื่อผ่าน 2 สัปดาห์ จะมีเด็กที่เลิกสูบเด็ดขาดร้อยละ 50 และภายใน 1 ปีมีเด็กเพียงร้อยละ 30 ที่กลับไปสูบอีก โดยปัจจัยเสริมที่ทำให้เลิกได้ พบว่า หากเป็นเด็กที่มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงก็จะเลิกง่ายกว่าเด็กที่หัวอ่อนตามเพื่อน

"ภาย 2 สัปดาห์พบว่าการติดตามพฤติกรรมร่วมกับการใช้มะนาวช่วยเลิกบุหรี่สามารถทำให้เด็กลดและเลิกบุหรี่ได้ นอกจากนี้ต้องมีคนให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำ ซึ่งโรงเรียนต้องใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็งในการดูแลเด็ก มีการทำโทษ แจ้งผู้ปกครอง หรือแม้แต่การให้ไปเสียค่าปรับที่โรงพักก็เคยมี เนื่องจากการเลิกบุหรี่ในเด็กกับผู้ใหญ่มีความแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ที่เลิกได้จริงก็จะเกิดจากความตระหนักรู้เกี่ยวกับพิษภัย และไม่กลับมาสูบบุหรี่อีกตลอดไป"

ประโยชน์ของการกินผัก

ฉันเชื่อว่ามีหลายๆคนที่ไม่ชอบกินผัก....ผักมีประโยชน์อย่างไร...ฉันขอบอกว่ามีมากเลยทีเดียว....
เรามาดูประโยชน์ของผักกันนะ......

ประโยชน์จากการกินผักปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตอย่างหนึ่ง คือ อาหารในแต่ละวันร่างกายต้องการอาหารครบ 5 หมู่ อาหารแต่ละชนิดให้คุณค่าแตกต่างกันไป อาหารพวก "ผัก" ไม่เพียงแต่รับประทานแล้วอร่อยและอิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังมีคุณค่าทางยาแอบแฝงอยู่อีกด้วย ในผักมีอะไร ผักเป็นอาหารที่มีคุณค่ามากชนิดหนึ่ง เพราะมีสารอาหารที่ร่างกายต้องการ เช่น เกลือแร่ วิตามิน อยู่เป็นจำนวนมาก สารบางอย่างจะมีเฉพาะในผักเท่านั้น สิ่งสำคัญที่พบมากในผักทุกชนิดคือ "ใยพืช" (Fiber) ซึ่งเป็นส่วนที่ย่อยไม่ได้และไม่ให้พลังงาน นอกจากมีมากในผักแล้วยังพบได้ในถั่วต่าง ๆ เช่น ถั่วฝักยาว ถั่วลันเตา ข้าวซ้อมมือ ข้าวแดง เป็นต้น ใยพืชมีประโยชน์อย่างไร 1. ให้พลังงานน้อย 2. ลดอัตราการดูดซึมของน้ำตาล ทำให้ระดับน้ำตาลภายหลังอาหารลดลง 3. ช่วยลดการดูดซึมไขมัน 4. กระตุ้นลำไส้ให้ทำงานดีขึ้น ทำให้ท้องไม่ผูก ป้องกันโรคริดสีดวงทวาร โรคมะเร็งลำไส้ เป็นต้น

เคมี

เคมีเป็นสิงที่เข้าใจยากมากๆๆๆๆๆ....สำหรับฉัน...แล้วฉันก็คิวว่ายากสำหรับทุกๆคนเช่นกัน..(ใช่มั้ย)
งั้นมาลองดูว่า...เคมี...คืออะร

เคมี คือศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับสสาร ความสามารถของสสาร การแปรรูปของสสาร และการปฏิสัมพันธ์กับพลังงานและสสารด้วยกันเอง เนื่องจากความหลากหลายของสสาร ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของอะตอม นักเคมีจึงมักศึกษาโครงสร้าง คุณสมบัติ และการจัดเรียงอะตอมเพื่อรวมตัวกันเป็นโมเลกุล เช่น แก๊ส โลหะ หรือผลึกคริสตัล เคมีปัจจุบันได้ระบุว่าโครงสร้างของสสารในระดับอะตอมนั้นถือเป็นตัวกำหนดธรรมชาติของสสารทุกชนิด
คำว่าเคมีใน
ภาษาอังกฤษคือ chemistry ซึ่งมีที่มาจากภาษากรีก คำว่า χημεία

ป้องกันสิว

มารู้จัก วิธีป้องกันสิว กันดีกว่านะ...สำหรับเพื่อนที่ชอบเป็นสิวจร้า

โดย พ.ท.นพ.วิษณุ ประเสริฐสม หลายๆ ท่านคงกังวลเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าว่าควรจะใช้ผลิตภัณฑ์ไหนดีที่เหมาะกับใบหน้าของเรา ตามหลักวิชาการแล้ว จุดประสงค์ในการล้างหน้าก็เพื่อขจัดสิ่งสกปรกออกไป เช่น ฝุ่นละออง เขม่ารถยนต์ หรือเชื้อโรคที่ปลิวมาเกาะไขมันบนใบหน้า และแน่นอน ถ้าจะล้างสิ่งสกปรกเหล่านั้นออกไป ผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้นั้นจะต้องชำระเอาไขมันส่วนหนึ่งออกไปด้วย สบู่โดยทั่วไปส่วนใหญ่มีฤทธิ์เป็นด่าง ค่า PH มากว่า 8 ซึ่งจะสามารถชำระไขมันและสิ่งสกปรกออกไปได้ แต่อย่าลืม ผิวหน้าเราก็จะขาดสมดุลย์ อ่อนแอ แห้ง หยาบกร้านเช่นกัน ดังนั้นสบู่ที่ดีควรชำระสิ่งสกปรกได้ดี และไม่ดึงเอาไขมันบนใบหน้ามากไป ลาโนลิน เลซิติน ในทางเภสัชศาสตร์ มีสารทำความสะอาดล้วนๆ คือ ซินเดท ซึ่งไม่ใช่สบู่ มีค่า PH ใกล้เคียงผิวหนัง กำจัดสิ่งสกปรกได้ดี และทำลายผิวน้อยที่สุด การล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้แต่งหน้า และเป็นผดผื่น แต่ถ้าผิวหน้ามัน แต่งหน้า คงต้องใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าล้างสิ่งสกปรกออกได้ดี และไม่ดึงไขมันออกมากจนเกินไป ค่า PH ประมาณ 5-7 ดีที่สุด โดยรวมควรเป็นสบู่เหลวมากกว่าสบู่ก้อน แต่จะเป็นผลิตภัณฑ์ไหนคงต้องพิจารณาฉลากหรือสอบถามแพทย์เภสัชกร ส่วนใหญ่มากกว่า 50 % ของคนไข้ที่มาพบแพทย์มักจะมาด้วยเรื่องสิว และมากกว่า 80% ของคนไข้เหล่านั้นก็จะอยู่ในช่วงวัยหนุ่มสาวและน้อยกว่า 5% จะพบหลังอายุ 35 ปี พอเริ่มเข้าวัยรุ่นฮอร์โมนจะกระตุ้นให้เกิดสิว เริ่มด้วยสิวอุดตัน เปลี่ยนเป็นสิวอักเสบ และก็สิวหนอง และก็ทิ้งรอยดำกับแผลเป็นหลุม แสงแดดแรงๆ สารเคมี ฝุ่นละออง และอากาศที่แห้ง ก็มีส่วนทำให้เกิดสิวได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นถ้าเราเข้าใจสาเหตุและกระบวนการเกิดสิว คงจะสามารถป้องกันการเกิดสิวรวมทั้งหลุมและรอยดำที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องช้ำใจ ไม่ต้องเสียเงินเสียเวลามากๆ ในการรักษารอยดำและหลุม รวมทั้งไม่ต้องเสี่ยงกับการรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี นอกจากจะไม่หายแล้วยังอาจจะเพิ่มปัญหาอื่นๆ บนใบหน้าอีกด้วย วิธีการรักษารอยดำและแผลเป็นจากสิว รอยดำ แผลเป็นนูน และแผลหลุม เป็นปัญหาหนักใจของคนส่วนใหญ่ เพราะใช้เวลารักษานาน และใช้งบประมาณมากกว่าที่จะรักษาสิวตั้งแน่เนิ่นๆ คือตั้งแต่ระยะสิวอุดตัน และระยะสิวอักเสบ ซึ่งจะหายได้เร็วกว่า รอยสิวดำ แพทย์ยังไม่ถือว่า เป็นแผลเป็นเหมือนหลุมหรือรอยนูน ปกติทิ้งไว้สัก 5-6 เดือน ก็พอจะจางหายไปเองได้ แต่ถ้าต้องการให้หายเร็ว ต้องใช้ยาครีมที่มี กรดวิตามิน เอ อาจจะร่วมกับทำการผลัดผิวด้วย AHA ด้วย ก็จะทำให้รอยดำสิวจางหายได้เร็วกว่าเดิม ส่วนรอยนูนกับหลุมสิว ถ้าทิ้งไว้ก็อยู่กับเราไปตลอดชีวิต แผลเป็นนูนที่เกิดตามหลังสิวอักเสบมักเกิดบริเวณจมูก, คาง, และขมับ แพทย์จะพิจารณาให้ยาทาและฉีดยาเข้าที่รอยนูนให้ยุบ การรักษาแผลเป็นนูนเนี่ย ต้องปรึกษาแพทย์โดยตรง เพราะเครื่องสำอางทั่วไป ช่วยให้นูนนุ่มขึ้นเท่านั้น แทบจะไม่สามารถทำให้ยุบได้เลย สำหรับรอยหลุมสิว การรักษาเริ่มตั้งแต่ เพียงแค่ทายาครีมกระตุ้นการผลัดผิวชั้นหนังกำพร้า พร้อมกับกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่และกระตุ้นชั้นหนังแท้ ต่อมาก็ร่วมกับการผลัดผิวด้วย AHA เพิ่มเติมด้วยเทคนิค แต้มน้ำยา TCA กระตุ้น ถ้าเป็นมากๆ อาจพิจารณากรอผิวหน้าด้วยเครื่องกรอ หรือ เลเซอร์ก็ได้ วิธีการต่างๆ แพทย์จะต้องตรวจและให้ข้อแนะนำ เพื่อความเหมาะสมของคนไข้แต่ละรายไป จากหลักฐานงานวิจัย ไม่มีเครื่องสำอางใดทาแล้วรักษาหลุมสิวได้ สำหรับไอออนโตโฟเรสิส ผลงานวิจัยยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าช่วยได้จริงหรือไม่

ปัญหาจากสิว

ในปัจจุบันนี้ คนเป็นสิวเยอะมากๆๆๆๆมาดูกันเพราะอะไร

สิ่งสกปรกบนใบหน้า หน้ามัน อาจเป็นสามารถทำให้เกิดสิว ด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้า อ่อนละมุน ไม่ทำให้ผิวแห้งตึง เพราะทั้งมีวิตามินบำรุงผิวหน้า เพื่อให้ใบหน้าของคุณดูเปล่งปลั่ง

- ผงวิตามินล้างหน้าเพื่อผิวขาวเนียนใส เพิ่มวิตามินให้ผิว Acerola Vitamin C washing powder สูตรอ่อนโยนพิเศษ นวัตกรรมล่าสุดจากญี่ปุ่น
- วิตามินซีสดล้างหน้า C Bright Plus ปฏิบัติการรักษาและกำจัดความมันได้เยี่ยมยอดที่สุดขณะนี้

- สบู่ DETOX ล้างพิษ ก้อนเดียว หน้าใสกิ๊ก รักษาสิว สิวเสี้ยน ฝ้า กระชับรูขุมขนที่กว้าง โรคผิวหนังพุพอง ได้อย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีชีวภาพจากธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ นำเข้ามาจากเกาหลี ไม่มีวางขายที่ไหน
- เซรั่มน้ำไข่มุกล้างหน้า เพิ่มสารสกัดซากุระหอม+น้ำทับทิมสด สะอาดหมดจด ทำให้ผิวใส พร้อมพิทักษ์ผิวสวย สำหรับผิวธรรมดา-แห้ง ขนาด 180ml. ใช้ได้นานเป็นเดือน

วันเยาวชนแห่งชาติ

ฉันอยากนำเสนอ...วัน วันนี้สำหรับเพื่อนมากๆเราเอง ศิวพร วาปักัง....เป็นวันเกิดของเราพอดีเลย...
20 กย. 52 และเป็นวันสำคัญของพวกเราเยาวชนทุกๆๆด้วยนะ

ประวัติความเป็นมา
วันเยาวชนแห่งชาติได้เริ่มมีขึ้นครั้งแรก เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2528 หลังจากที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้ปี พ.ศ. 2528 เป็นปีเยาวชนสากล ดังนั้น เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2528 คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติกำหนดให้วันที่ 20 กันยายน ของทุกปีเป็นวันเยาวชนแห่งชาติ เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพใน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2396
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ทรงพระราชสมภพเมื่อ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468
และพระมหากษัตริย์ทั้งสองพระองค์ ได้ขึ้นครองราชสมบัติขณะยังทรงพระเยาว์
นอกจากนี้ยังได้มีการส่งเสริมให้เยาวชนที่กระจายกันทั่วประเทศ ได้ตระหนักว่าเยาวชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมรับผิดชอบในการพัฒนาชาติให้มีความมั่นคงและเจริญรุ่งเรือง โดยเริ่มจากการพัฒนาตนเองให้เป็นผู้มีค่านิยมที่ถูกต้อง ภูมิใจและหวงแหนและอนุรักษ์ไว้ซึ่งความเป็นไทย อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย รู้จักการอดออมและประหยัดรวมทั้งการบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติ ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
นอกจากหน่วยงานของรัฐ หน่วยงานภาคเอกชนก็มีส่วนสำคัญในการช่วยพัฒนาและส่งเสริมให้เยาวชนของชาติเป็นทรัพยากรบุคคลมีคุณภาพ และสถาบันทีมีความสำคัญเป็นอันดับแรกในการพัฒนา คือ สถาบันครอบครัว ซึ่งหากผู้ปกครองมีความเข้าใจ เอาใจใส่ ดูแล ทนุถนอม ให้ความรักความอบอุ่นแก่เยาวชนที่อยู่ในความปกครองอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะมีส่วนเป็นอย่างมากในการที่จะนำพาเยาวชนให้เป็นบุคคลที่มีทั้งคุณภาพและคุณธรรม ซึ่งจะพาประเทศชาติให้เจริญรุงเรืองต่อไปในภายภาคหน้า

การดื่มนม

การดื่มนมมีดีกันอย่างไร....เรามาทำความรูจักกันนะคะ.....ฉันก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ม่ค่อยชอบดื่มนม....แต่นมก็มีประโยชน์นะคะ...มาดูกันนะ

ขณะที่สังคมพยายามกระตุ้นให้คนโดยเฉพาะเด็กและเยาวชนหันมาดื่มนมแทนน้ำเพื่อเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง แต่ในโลกที่กอปรขึ้นด้วยความรู้จากหลากหลายสาขา ก็ยังมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญบางคนกล่าวว่า การไม่ดื่มนมหรืออาหารบางชนิดที่ผลิตจากนมวัวมิได้เป็นสาเหตุทำให้กระดูกของเราเสื่อม หรือความรู้ความเข้าใจที่ว่านมถั่วเหลืองไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก กระทั่งว่า "จริงหรือที่อายุมีผลต่อการดื่มนม ?"

สำหรับชมรมคนรักนมคงสับสนไม่น้อย และอยากทราบถึงข้อเท็จจริงของน้ำสีขาวนวลชนิดนี้ว่า จริงๆ แล้ว คุณค่าและประโยชน์ที่พูดๆ กันนั้นเป็นบวกหรือลบกันแน่

"นมวัวมีไว้สำหรับลูกวัวตัวน้อย ไม่มีสัตว์ป่าชนิดไหนที่กลับมาดื่มนมอีกหลังจากหย่านมแล้ว รวมทั้งกินนมข้ามสายพันธุ์ นมวัวหรือผลิตภัณฑ์จากนมวัวต่างสร้างปัญหาให้กับการทำงานของกระดูกแขนขา ระบบเลือดและตับ ปวดไมเกรน หรือเจ็บป่วยเนื่องจากภูมิคุ้มกันบกพร่อง รวมทั้งโรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันสูง และโรคอ้วนที่พบเห็นมากขึ้นในปัจจุบัน..." นี่เป็นตัวอย่างด้านลบ

ข้อมูลดังกล่าวยังคงเป็นข้อถกเถียงกันไม่รู้จบ จนกระทั่งผู้คนหันมาสนใจเรื่องไอคิวของเด็กที่ถูกเลี้ยงด้วยนมแม่มากขึ้น ซึ่งคนรุ่นหลังเปลี่ยนมาเลี้ยงลูกด้วยนมและเนยจากแพะ รวมทั้งนิยมดื่มนมถั่วเหลืองในยุคของอาหารชีวจิต เลี่ยงการดื่มนมสดที่ยังไม่แน่ใจเรื่องโทษและประโยชน์

หนึ่งในข้อมูลที่ไม่ค่อยดีเกี่ยวกับนม คือ น้ำตาลในนมทำให้ระคายท้องนั้น จริงๆ แล้ว 'น้ำตาลนม' เป็นคาร์โบไฮเดรตหรือน้ำตาลตามธรรมชาติ ที่พบในนมทุกชนิด หนึ่งในจำนวนนั้นประกอบด้วยน้ำตาลแล็กโทส (Lactose) ซึ่งนมจะมีน้ำตาลชนิดนี้มากกว่าน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตชนิดอื่น โดยมีประมาณร้อยละ 6-7 ในน้ำนมแม่ และร้อยละ 5 ในน้ำนมวัว ความพิเศษของน้ำตาลแล็กโทสอยู่ที่ประกอบด้วยน้ำตาลชั้นเดียวสองโมเลกุลรวมกันคือ น้ำตาลกลูโคส และกาแล็กโทส น้ำตาลแล็กโทสจะมีความหวานมันน้อยกว่าน้ำตาลทราย เทียบได้ประมาณหนึ่งในหกของน้ำตาลทราย

โดยที่ร่างกายของคนเราโดยเฉพาะเด็กแรกเกิดจะมีน้ำย่อยที่เรียกว่าแล็กเทส (Lactase) อยู่ภายในลำไส้ ทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลแล็กโทสเพื่อให้ร่างกายดึงน้ำตาลในนมไปใช้ได้ และโดยปกติระดับของน้ำย่อยแล็กเทสจะลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น ส่วนผู้ใหญ่โดยเฉพาะชาวเอเชียที่ไม่มีนิสัยรักการดื่มนมเป็นประจำ ร่างกายก็จะเลิกสร้างหรือมีการสร้างน้ำตาลแล็กเทสลดลง ทำให้ผู้ใหญ่มักมีอาการผิดปกติเมื่อดื่มนมเข้าไป เช่น อาการแน่นท้อง ท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสีย หรือรุนแรงถึงขึ้นท้องร่วง เป็นต้น

อาการเหล่านี้เกิดจากการที่ร่างกายย่อยน้ำตาลแล็กโทสที่ไม่ผ่านกระบวนการย่อยถูกส่งไปยังลำไส้ ซึ่งแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่จะเป็นตัวย่อยสลายน้ำตาลแล็กโทสจนเกิดเป็นกรดและก๊าซขึ้น จนทำให้มีอาการผิดปกติ

ดังนั้นเราจึงควรรู้วิธีการดื่มนมเพื่อหลีกเลี่ยงการระคายท้องดังนี้

- เริ่มต้นดื่มนมในปริมาณน้อย เช่น เริ่มจากดื่มเศษ 1 ส่วน 4 แก้ว แล้วค่อย ๆ เพิ่มเป็นครึ่งแก้ว จนสามารถดื่มได้วันละ 1 แก้ว ซึ่งจะใช้เวลาปรับตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่ต้องอดทนหากมีอาการไม่มากนัก

- อย่าดื่มนมขณะท้องว่าง ควรดื่มนมหลังอาหารหรือหาอะไรรับประทานขณะดื่มนมจะช่วยได้มาก

- ถ้าใช้ทั้ง 2 วิธีดังกล่าวแล้วอาการยังคงรุนแรงอยู่ ควรเลือกรับประทานโยเกิร์ตชนิดครีมแทน

- ถ้าไม่ได้ผลทั้ง 3 วิธี คงต้องหาแหล่งแคลเซียมอื่น ๆ ทดแทน อาทิเช่น ผักใบเขียว เต้าหู้แข็ง หรือปลาตัวเล็กที่รับประทานได้ทั้งตัว

แต่ถ้าใครต้องการดื่มนมอย่างจริงๆ จังๆ ลองปฏิบัติเคล็ดลับการดื่มนมต่อไปนี้ เผื่อจะช่วยได้บ้าง

ถ้าเกิดอาการท้องอืด หรือท้องเสียทุกครั้งที่ดื่มนมเพราะแพ้น้ำตาลแล็กโทสในนม สามารถแก้ไขได้โดย 1. ดื่มนมทีละแก้ว 2. ดื่มนมหลังอาหาร 3. ดื่มนมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต ซึ่งวิธีที่ 1 และ 2 สามารถทดลองได้เลย ส่วนวิธีที่ 3 ควรลองรับประทานโยเกิร์ตชนิดครีมก่อนแต่ถ้าต้องการแคลเซียมที่เท่ากับนม 1 แก้ว ต้องรับประทาน 2 ถ้วย และหากอาการยังไม่ดีขึ้นให้เปลี่ยนมารับประทานโยเกิร์ตชนิดดื่ม ที่สำคัญต้องเลือกชนิดที่มีนมสดผสมอยู่มากๆ โดยอ่านจากฉลากก่อนทุกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นมเป็นแหล่งอาหารโปรตีนที่มีคุณภาพดีและมีแร่ธาตุแคลเซียม เด็กจึงควรดื่มนมวันละ 2-3 แก้ว ผู้ใหญ่ควรดื่มวันละ 1 แก้ว แต่ถ้ามีปัญหาไขมันสูงหรืออายุเกิน 40 ปี ควรดื่มนมพร่องมันเนย และผู้สูงอายุควรดื่มนมพร่องมันเนยหรือขาดมันเนยวันละ 1 แก้ว

แต่ถ้าบ้านไหนชอบดื่มน้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง โปรดรับรู้ว่าเครื่องดื่มชนิดนี้ไม่เหมาะกับเด็กเล็ก เนื่องจากแนวโน้มการเพิ่มจำนวนของโรคแพ้อาหารมีมากขึ้น จึงทำให้ผู้คนตกอยู่ในภาวะหวาดกลัว (อาหาร) จนก้าวเข้าสู่ยุคอาหารชีวจิตเพื่อสุขภาพและนิยมเลี้ยงเด็กแรกเกิดด้วยนมถั่วเหลืองมากขึ้นเรื่อยๆ ยกเว้นในสหรัฐ ซึ่ง 15 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนเด็กแรกเกิดไม่ดื่มนมถั่วเหลือง เพราะถึงแม้ว่าจะปลอดภัยจากอาการแพ้ แต่นมถั่วเหลืองมีปริมาณธาตุแคลเซียมและสารอาหารที่จะไปเลี้ยงฮอร์โมนเพศหญิง ไฟโต-เอสโตรเจน (Phyto-Estrogen) ต่ำกว่า

นอกจากนี้การที่เด็กแรกเกิดสามารถดื่มนมได้ปริมาณมากและเร็วกว่าผู้ใหญ่ชาวเอเชียหรือผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนถึง 10 เท่านั้น จึงมีผลกระทบต่อพัฒนาการทางร่างกายของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการศึกษาวิจัยขององค์การวิทยาศาสตร์แห่งสหรัฐ คาดว่าการบริโภคนมถั่วเหลืองจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งของปัญหาระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องและความแข็งแรงของกระดูก

พื้นฐานความรู้ง่ายๆ เกี่ยวกับนมที่กล่าวมานี้ มีหลายคนที่มองข้ามไปเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ใครๆ ก็รู้กัน แต่ถ้าลองเจาะถามภูมิกันเป็นรายตัว น้อยคนนักที่ดื่มอย่างรู้จริงและถูกวิธี วันนี้จึงยังไม่สายที่จะถอยหลังกลับไปดื่มนมอย่างถูกสุขลักษณะ รับรองได้สุขภาพดีมาเป็นของแถมจริงๆ

ความรัก

ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม....ฉันเองก็เป็นคนที่ชอบความรักเช่นกัน ฉันมีบทความมาลองให้เพื่อนๆติดตามดูกันนะคะ....................(TT_TT)

ความรัก เป็นคำที่มีความหมายเกี่ยวกับอารมณ์และความรู้สึกเกี่ยวกับ การชอบ, การผูกพันทางจิตใจกับบางสิ่งบางอย่าง คำว่ารักมีความหมายในหลายแง่มุมซึ่งทั้งลึกซึ้งและกว้างขวาง ต่างคนต่างมีความรักต่อผู้อื่นแตกต่างกัน ดังนั้นจึงยากต่อการอธิบายและให้คำนิยามคำว่ารักแบบเฉพาะเจาะจง รักเป็นความสัมพันธ์ซึ่งไม่ได้อยู่ลอยๆ หากมีรักก็จะต้องมีผู้ซึ่งเป็นฝ่ายรักและอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งเป็นผู้ถูกรัก ความรักเป็นนามธรรมจึงไม่อาจมองเห็น, ไม่อาจจับต้อง ไม่อาจวัดปริมาณได้. โดยทั่วไปแล้ว ความเสียหายหรือการจากไปของสิ่งรักจะนำมาซึ่งความโศกเศร้าแก่ผู้รัก เนื่องจากผู้รักได้ให้คุณค่าแก่สิ่งนั้น อาจกล่าวได้ว่า ความโศกเศร้าจะมากหรือน้อยขึ้นกับคุณค่าที่ผู้รักกำหนดให้กับสิ่งที่ตนรักนั้น ความรักไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่เพียงมนุษย์ สัตว์ต่างๆ ก็แสดงปรากฏการณ์ทางความรักให้เห็น เช่น การปกป้องลูก
นักปราชญ์ทั่วโลกพยายามหาความหมายที่แน่นอน หรือหานิยามของคำว่าความรัก แต่ไม่มีใครสามารถหาข้อสรุปได้ว่าความรักนั้นมีนิยามเช่นไร
เทวดาที่เกี่ยวข้องกับความรัก คือ กามเทพของศาสนาฮินดู และคิวปิดในตำนานความเชื่อของกรีก
สัญลักษณ์ที่หมายถึงความรัก คือ รูปหัวใจสีแดง, การชูมือออกมา แล้วกางเฉพาะนิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วก้อย ซึ่งหมายถึง ฉันรักเธอ (I Love You) นอกจากนี้บางทีดอกกุหลาบก็หมายถึงความรักด้วย
วันแห่งความรัก (วันวาเลนไทน์) คือ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี ซึ่งมักจะมีการแสดงความรักโดยการให้ของขวัญหรือให้ดอกกุหลาบ โดยถือว่าดอกกุหลาบนั้นเป็นดอกไม้แห่งความรัก

แนะนำตัว

นส.ศิวพร ปีกัง (ออล์ย) ม.5/1 เลขที่ 17

ครูผู้สอน คุณครู วีระชน ไพสาทย์

การทำเว็บบล๊อกนี่ก็ยากอยู่นะ

ก็นะต้องทำตั้งหลายครั้งอ่านะ

ไม่ได้ซ้ากกะที...แล้วอีกอย่างนะ....

ทำไมๆๆๆถึงเปิดดูบล๊อกไม่ได้...

ยากเจงๆเรย์....แต่ตอนนี้หายยากแล้ว...

555+...เปิดดูได้แล้ว..ขอบคุณพระเจ้า...